▶ต้องขัดสีรถก่อนเคลือบหรือไม่?

การขัดจะต้องขึ้นอยู่กับพื้นผิวสีของรถของคุณหรือไม่ หลังจากตากแดดและฝนเป็นเวลานานการล้างรถเป็นเวลานานการเช็ดถูและมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อมพื้นผิวสีจะออกซิไดซ์และได้รับความเสียหายรอยขีดข่วนขนาดใหญ่และเล็กริ้วรอยและรอยแดดเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ หากสีรถของคุณมีริ้วหรือรอยขีดข่วนมากมายขอแนะนำให้ขัดก่อนเคลือบเซรามิก การขัดผิวนี้จะช่วยขจัดชั้นออกไซด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและขจัดรอยขีดข่วนและริ้วรอย สิ่งนี้สามารถปรับปรุงคุณภาพการเคลือบได้อย่างมากทำให้สารเคลือบมีประสิทธิภาพดีที่สุด (โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าพื้นผิวสะอาดก่อนเคลือบโดยไม่มีสารขัดเงาหรือแว็กซ์ตกค้าง)

▶มีแว็กซ์บนพื้นผิวสีรถของฉัน ต้องเอาแว็กซ์ออกก่อนเคลือบหรือไม่?

ใช่คุณต้องเอาแว็กซ์ออกก่อนเคลือบ โปรดใช้สารล้างไขมันหรือแว็กซ์รีมูฟเวอร์ ขอแนะนำให้เช็ดด้วย IPA ในตอนท้ายเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีน้ำมันหรือขี้ผึ้งหลงเหลืออยู่บนพื้นผิวของวัสดุพิมพ์

▶รถใหม่ต้องผ่านการขัดสีหรือเตรียมการล่วงหน้าหรือไม่?

รถยนต์ใหม่มี 2 ประเภท: 1. การผลิตสั้นจนถึงระยะเวลาการส่งมอบ 2. การผลิตที่ยาวนานถึงเวลาส่งมอบ:

1. ระยะเวลาในการผลิตจนถึงการจัดส่งค่อนข้างสั้น โดยพื้นฐานแล้วคุณภาพของพื้นผิวสีควรดีมาก โดยทั่วไปในสถานการณ์เช่นนี้การทำความสะอาดที่เหมาะสมและการเช็ด IPA ของพื้นผิวสีก็เพียงพอแล้วที่จะทำความสะอาดพื้นผิว

2. มีช่องว่างยาวระหว่างการผลิตและการจัดส่ง ขอแนะนำให้ขัดสีรถพื้นฐานสำหรับกรณีดังกล่าว หลังจากออกจากโรงงานยานพาหนะส่วนใหญ่จะถูกวางไว้ในคลังกลางแจ้งขนาดใหญ่ในขณะที่รอการส่งมอบ ในช่วงนี้จะต้องเจอกับแดดและฝนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อโดนแดดและฝนจะมีชั้นออกไซด์ปรากฏบนพื้นผิวสี

3. หากคุณไม่สามารถตัดสินได้ด้วยตัวเองว่าคุณต้องการการขัดสีหรือไม่คุณสามารถหาเวิร์กช็อประดับมืออาชีพเพื่อช่วยประเมินว่าคุณต้องการขัดหรือมีเรื่องอื่นที่ต้องจัดการหรือไม่

▶ขัดสีรถเองได้หรือไม่?

การขัดผิวไม่ง่ายเหมือนคนส่วนใหญ่ มันไม่ง่ายเหมือนการใช้เครื่องจักรวางฝ้ายขัดบาง ๆ แล้วใช้สารขัดเงา การขัดเป็นกระบวนการที่ละเอียดอ่อนมากซึ่งต้องใช้ทักษะระดับมืออาชีพและประสบการณ์ที่ยาวนาน ข้อบกพร่องที่แตกต่างกันบนพื้นผิวสีต้องใช้เครื่องมือขัดสารขัดและแผ่นขัดที่แตกต่างกัน การขัดแบบ DIY ไม่ใช่เรื่องยาก แต่คุณต้องมั่นใจว่าคุณมีทักษะและความรู้ที่เหมาะสมหรือไม่ หากไม่เป็นเช่นนั้นเมื่อพื้นผิวสีมีเส้นหรือรอยขีดข่วนมากขึ้นอาจเป็นการดีกว่าให้ผู้เชี่ยวชาญจัดการ นอกจากนี้ความหนาของชั้นเคลือบใสยังมีข้อ จำกัด เนื่องจากมีความเสี่ยงที่จะขัดไม่ได้ขอแนะนำให้พยายามจัดการด้วยตัวเองสำหรับงานเล็กน้อยเช่นการกำจัดแว็กซ์หรือการล้างไขมัน

▶ฉันต้องการเพิ่มชั้นป้องกันโดยใช้สองชั้น ฉันควรรอนานแค่ไหนระหว่างแอปพลิเคชัน?

โดยทั่วไปมีสองวิธีในการดำเนินการ:

1. ใช้ชั้นที่สองภายใน 40 ~ 60 นาทีของการสมัครครั้งแรก

2. ทาชั้นที่สองหลังจาก 12 ~ 24 ชั่วโมง

1. ในวิธีแรกฟิล์มจะรวมตัวเป็นฟิล์มชั้นเดียวโดยมีความหนาปกติเป็นสองเท่าหลังการบ่มเนื่องจากพื้นผิวของชั้นแรกยังอยู่ในขั้นตอนการทำให้แห้งเมื่อทาชั้นที่สอง เมื่อใช้ชั้นที่สองตัวแทนบนฟิล์มจะทำให้ชั้นแรกอ่อนตัวลงและชั้นที่สองจะหลอมรวมกับชั้นแรก

2. ในวิธีที่สองฟิล์มจะรวมตัวเป็นฟิล์มสองชั้นที่มีความหนา 1 + 1 หลังจากการบ่มเนื่องจากพื้นผิวของการเคลือบชั้นแรกถึงขั้นตอนการบ่มเมื่อทาชั้นที่สอง ในขั้นตอนนี้ฟิล์มมีความแข็งและความต้านทานการกัดกร่อนในระดับมาก เมื่อทาชั้นที่สองตัวแทนจะไม่ทำให้ชั้นแรกอ่อนตัวลงและสารเคลือบจะยึดเกาะกับชั้นแรกได้ดีดังนั้นชั้นที่สองจะยึดติดกับชั้นแรกอย่างแน่นหนา

▶ฉันควรทำอย่างไรหากพบชิ้นส่วนที่ไม่ได้รับการเคลือบอย่างเพียงพอ?

ไม่ต้องกังวลคุณสามารถทาสารเคลือบซ้ำได้โดยตรงตามปกติ

▶ฉันสามารถขับรถในขณะที่รอให้สารเคลือบแห้งได้หรือไม่? ใช้เวลานานแค่ไหนกว่าจะแห้ง?

ไม่แนะนำ

ต้องใช้เวลา 4 ชั่วโมงหลังจากเคลือบเพื่อให้แห้งนี่เป็นขั้นตอนเริ่มต้นของกระบวนการบ่มสำหรับการเคลือบ หากสัมผัสกับน้ำในระหว่างกระบวนการอบแห้งพื้นผิวของฟิล์มจะเสียหายเนื่องจากความชื้นและประสิทธิภาพของฟิล์มเคลือบจะลดลงและสารเคลือบไม่สามารถบรรลุผลตามที่ต้องการได้

ขอแนะนำให้รออย่างน้อย 24 ชั่วโมงหลังการเคลือบก่อนขับรถ

▶ฟิล์มเคลือบหลังเคลือบหนาแค่ไหน?

เป็นเรื่องยากมากที่จะระบุความหนาของฟิล์มที่แน่นอนของการเคลือบสีรถหลังการใช้งาน โดยทั่วไปข้อมูลความหนาของฟิล์มจะได้รับการตรวจสอบและความหนานี้จะถูกวัดด้วยความช่วยเหลือเชิงกลโดยขึ้นอยู่กับวิธีการเคลือบเช่นการเคลือบแบบหมุนการเคลือบแบบจุ่ม ฯลฯ ด้วยวิธีการเคลือบที่สม่ำเสมออาจเป็นไปได้ที่จะได้รับความคงตัว ช่วงข้อมูลความหนาของฟิล์ม อย่างไรก็ตามนี่เป็นไปไม่ได้ที่จะระบุในการใช้งานจริงซึ่งวิธีการเคลือบแตกต่างกันไป

นอกจากนี้การทำงานของชั้นฟิล์มหลังการเคลือบจะต้องไม่ขึ้นอยู่กับความหนาฟิล์มของฟิล์ม ประสิทธิภาพของมันขึ้นอยู่กับการกำหนดของตัวแทนเอง สารเคลือบผิวที่มีสูตรดียังคงมีประสิทธิภาพสูงแม้ในชั้นที่บางมาก

ความหนาของผิวเคลือบเกี่ยวข้องกับอะไร? โดยทั่วไปความหนาของฟิล์มมีความสัมพันธ์กับความทนทานของการเคลือบมากกว่า แต่ไม่ใช่ทั้งหมดเนื่องจากยังคงขึ้นอยู่กับความแข็งของการเคลือบ แม้จะเคลือบหนา แต่ก็ไม่แข็งพอก็ไม่สามารถต้านทานการสึกกร่อนและรอยขีดข่วนจากแรงกดภายนอกได้ ในท้ายที่สุดการกำหนดสูตรของสารเคลือบนั้นเป็นจุดเน้นไม่ใช่ความหนาของฟิล์ม

▶ความหนาของฟิล์มทำได้ยากหรือไม่?

ประสิทธิภาพการยึดเกาะพื้นผิวของสีความทนทานต่อสภาพอากาศในสิ่งแวดล้อมและฟังก์ชันการใช้งานพื้นฐานของการเคลือบควรมีความสมดุลและควรได้รับความหนาของฟิล์มโดยการเคลือบหลายชั้นแทนที่จะเป็นเพียงความหนาของฟิล์มเพียงครั้งเดียวโดยไม่สนใจประเด็นสำคัญอื่น ๆ

▶สามารถใช้สารเคลือบนี้กับกระจกบังลมและกระจกข้างได้หรือไม่?

สามารถใช้ได้กับพื้นผิวกระจกเคลือบรวมถึงกระจกบังลม วิธีที่ดีที่สุดคือขจัดคราบสกปรกและหมึกออกจากกระจกก่อนการใช้งาน

▶สารเคลือบนี้สามารถใช้กับพื้นผิวพลาสติกได้หรือไม่?

สารเคลือบของเราไม่กัดกร่อนและไม่กัดกร่อนพลาสติก มีการยึดเกาะสูงกับพื้นผิวที่เป็นของแข็งที่ไม่มีรูพรุนแก้ว ฯลฯ และจะไม่ทิ้งรอยที่ชัดเจน

▶สามารถเคลือบภายนอกอาคารได้หรือไม่?

โดยทั่วไปเราไม่แนะนำอย่างยิ่งให้ต่อต้านหรือต่อต้านการใช้งานกลางแจ้งเนื่องจากมีแหล่งกำเนิดมลพิษที่ไม่สามารถระบุได้มากเกินไปกลางแจ้ง ลมอาจพัดฝุ่นและทรายละเอียดขึ้นจากพื้นดิน สิ่งเหล่านี้จะเกาะอยู่บริเวณที่ยังไม่ได้ทาฟิล์มเคลือบ เมื่อใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ขจัดฟิล์มเคลือบสารมลพิษเหล่านี้จะทำให้เกิดรอยขีดข่วนบนพื้นผิวสี

ปัญหาอีกประการหนึ่งคืออุณหภูมิและลมภายนอกอาคาร สภาพอากาศที่ร้อนเกินไปหรือลมแรงเกินไปจะทำให้ความคงตัวของการเคลือบไม่เพียงพอและการไม่สามารถควบคุมความเร็วในการอบแห้งจะทำให้เกิดปัญหาอย่างมากต่อความเสถียรและความมันวาวของชั้นเคลือบในระหว่างการใช้งาน

คุณสามารถดำเนินกระบวนการเคลือบในสภาพแวดล้อมแบบเปิดเพียงให้แน่ใจว่าไม่มีลมพัดแรงไม่มีเศษผงในอากาศและอย่าทำกระบวนการเคลือบในแสงแดดหรืออากาศร้อนโดยตรงเนื่องจากการเคลือบจะเช่นกัน เริ่มแห้งเร็วขึ้นทำให้คุณมีเวลาไม่เพียงพอในการทาชั้นเคลือบอย่างถูกต้อง

▶ควรใช้อุปกรณ์นิรภัยชนิดใดในการสมัคร?

ขอแนะนำให้สวมถุงมือนิรภัยระหว่างการใช้งาน